สภาลูกหนัง! ก่อน ‘ฮังการี’ จะมี ‘โซบอสไลซ์’ โลกได้จารึกเรื่องราวของชายคนนี้
นามของ โดมินิค โซบอสไลซ์ ถูกพูดถึงตลอดทั้งสัปดาห์ หลังจากที่ ลิเวอร์พูล ควักเงิน 60 ล้านปอนด์ เพื่อจ่ายค่าฉีกสัญญามาจาก อาร์เบ ไลป์ซิก
การที่ดาวเตะหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว วัยเพียง 22 ปี รายนี้ มีดีกรีเป็นถึงกัปตันทีมชาติฮังการี ทำให้ชื่อของประเทศที่ไม่ได้เป็นมหาอำนาจลูกหนังถูกพูดถึงขึ้นมา ว่าดินแดนนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไรกันบ้างในสภาลูกหนัง
ไม่น่าเชื่อนะครับว่า ชาติจากยุโรปกลาง ทีมนี้เคยเฉียดถ้วยฟุตบอลโลกมาแล้วถึง 2 ครั้ง อย่างน่าเสียดาย ซึ่งจบเพียงรองแชมป์ ในปี 1938 และ 1954 ส่วนรายการที่ปัจจุบันอาจจะถูกลดความสำคัญลงไปอย่างโอลิมปิค เพราะจำกัดอายุนักเตะไม่เกิน 23 ปี แต่ในอดีตที่ขนลงได้แบบอิสระ พวกเขานั้นคว้าเหรียญทองถึง 3 สมัย ในปี 1952, 1964 และ 1968 เรียกได้ว่า นี่คือชาติที่เคย ยอดเยี่ยม ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร ฮังการีชุบแป้งทอดมาก่อน
ซึ่งหากจะพูดถึงนักเตะชาวฮังกาเรียน สักรายในตอนนั้น แน่นอนว่าส่วนใหญ่คงเกิดไม่ทัน แต่ถ้าได้ยินคำว่า ‘เฟเรนซ์ ปุสกัส’ เชื่อว่าหลายๆคนต้องคุ้นหูกันอย่างแน่นอน เพราะว่านามสกุลของเขาถูกนำมาตั้งเป็นรางวัลประตูสุดสวยที่สุดของแต่ละปี ในเวทีประกาศบัลลงดอร์ ที่ชื่อว่า ‘ปุสกัส อวอร์ด’
ชายผู้ลืมตาดูโลกในปี 1927 การันตีความเป็นสุดยอดกองหน้าด้วยผลงานกับ เรอัล มาดริด ตลอด 8 ฤดูกาล ระหว่างปี 1958 ถึงปี 1966 โดยทะลวงตาข่ายไป 201 ประตู จากการลงสนาม 229 นัด ส่วนกับทีมชาติฮังการี สถิติโหดเหมือนโกรธใครมา เพราะเขาซัลโวไป 85 ดอก จาก 84 เกม พูดง่ายๆคือ ยิงเยอะกว่าลงไปเดินเหยียบพื้นหญ้าในสนามซะอีก
ดาวเตะรายนี้แทบจะทำประตูได้จาก เท้าซ้ายเพียงอย่างเดียวตลอดอาชีพค้าแข้ง โดยให้คำนิยามเอาไว้ว่า “คุณเตะลูกบอลได้แค่ทีละข้างอยู่แล้ว ไม่อย่างงั้นคุณจะล้มก้นจ้ำเบ้า"
นอกจากนั้นยังมีประโยคปลุกใจเพื่อนร่วมทีมว่า “พวกเราชาวฮังการี จะต้องตระหนักว่าจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ยังคงเป็นทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการฟุตบอล"
เฟเรนซ์ ปุสกัส จากไปอย่างสงบในวัย 79 ปี เมื่อคริสต์ศักราช 2006 ซึ่งหลังจากนั้นทาง ฟีฟ่า ก็ได้ให้เกียรติตั้งชื่อรางวัลประตูสุดสวยในแต่ละปีปฏิทิน โดยมีที่มาจากความสุดยอดของเขา
ทีมชาติฮังการี อาจไม่เคยถูกจารึกว่ามีดีกรีเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก แต่อย่างน้อยๆพวกเขาก็สามารถภูมิใจได้ว่า โรนัลโด้, เนย์มาร์, ซลาตัน และสุดยอกนักเตะอีกทั้งพิภพ กำลังล่ารางวัลซึ่งมีชื่อตำนานของพวกเขาจารึกอยู่
เขียนโดย The Lite Team.